
เสือแบล็ค ประเดิมโหด เตะหมุนดับ แสงอาทิตย์
ศึก ONE ลุมพินี 114 ระเบิดความมันสะท้านค่ำคืนวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568 จัดเต็มความเดือด 11 คู่ ดวลกำปั้นกันแบบไม่มีใครยอมใคร ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) พร้อมถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาต่อสู้ในกว่า 195 ประเทศทั่วโลกได้รับชมอย่างจุใจ โดยคู่เอกประจำรายการครั้งนี้ คือการปะทะกันระหว่างสองนักสู้ต่างสไตล์ เสือแบล็ค ท.พราน 49 และ แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน ที่ขึ้นเวทีในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นน้ำหนัก 140 ปอนด์
การเผชิญหน้าครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของทั้งสองฝ่าย โดย “แสงอาทิตย์” ดาวรุ่งจากสายมวยสากลอาชีพ วัยเพียง 21 ปี เจ้าของดีกรีแชมป์หลายรายการ ต้องมาเจอกับ “เสือแบล็ค” นักชกสายบู๊จากเพชรบูรณ์วัย 28 ปี ผู้มากประสบการณ์บนเวทีมวยไทย ที่เพิ่งเปิดตัวสู่เวทีคิกบ็อกซิ่งในนาม ONE อย่างเป็นทางการ
ในยกแรก ทั้งสองยังระวังตัวกันอย่างเต็มที่ ต่างฝ่ายต่างใช้จังหวะชิงเหลี่ยมแบบไม่ประมาท แต่เมื่อขึ้นยกสอง “เสือแบล็ค” เริ่มเดินเครื่องเร่งเกม ใช้หมัดซ้ายตรงกดเข้าจัง ๆ ใส่ใบหน้าของแสงอาทิตย์จนออกอาการเสียจังหวะ ช่วงยกสุดท้าย เสือแบล็คโชว์อาวุธลับด้วยการเตะหมุนกลับหลังเข้าเป้า 2 ครั้งเต็ม ๆ ทำให้กรรมการต้องนับแสงอาทิตย์ท่ามกลางเสียงเฮลั่นจากผู้ชมในสนาม
ครบสามยก กรรมการรวมคะแนนเป็นเอกฉันท์ชูมือให้ “เสือแบล็ค ท.พราน 49” คว้าชัยชนะอย่างสวยงาม ประเดิมไฟต์คิกบ็อกซิ่งครั้งแรกใน ONE ได้อย่างทรงพลัง และเรียกเสียงปรบมือชื่นชมทั้งสนาม
ค่ำคืนนั้นสนามลุมพินีถูกแต่งแต้มด้วยพลังของแฟนหมัดมวยจากทั่วสารทิศ อัฒจันทร์ทุกฝั่งแน่นขนัด ไม่เว้นแม้แต่โซน VIP ที่มีคนดังในวงการบันเทิงและกีฬามาร่วมชมอย่างคับคั่ง บรรยากาศเร้าใจตั้งแต่เสียงระฆังยกแรกดังก้อง เสียงเชียร์ เสียงโห่ เสียงเฮ ดังกระหึ่มตลอดทั้งไฟต์
ทันทีที่เสือแบล็คออกอาวุธเด็ดใส่แสงอาทิตย์ สนามถึงกับสะเทือน เสียงเฮจากแฟน ๆ ดังสนั่นจนบรรยากาศเปลี่ยนจากสนามมวยธรรมดาให้กลายเป็นเวทีแห่งศักดิ์ศรีของนักสู้ตัวจริง
เบื้องหลังความสำเร็จของเสือแบล็คไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แหล่งข่าวจากค่าย ท.พราน 49 เผยว่า นักชกจากเพชรบูรณ์รายนี้ทุ่มเทกับการฝึกซ้อมหนักเป็นพิเศษกว่า 6 สัปดาห์ ก่อนขึ้นเวทีครั้งนี้ โดยเน้นปรับสไตล์การยืนระยะให้เข้ากับกติกาคิกบ็อกซิ่ง ฝึกท่ายากเช่นการเตะหมุนกลับหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแม่นยำระดับเซียน
โค้ชคู่ใจของเสือแบล็คระบุว่า “ไฟต์นี้คือเดิมพันความมั่นใจของเขา เราไม่สนแค่ชนะ แต่ต้องชนะให้สวย และเป็นเสือแบล็คเวอร์ชันที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมี”
เสือแบล็ค ท.พราน 49:
“ผมดีใจมากครับ ไฟต์นี้คือไฟต์ที่ผมตั้งใจและเตรียมตัวมากที่สุดตั้งแต่เป็นนักมวยมา ขอบคุณ ONE ที่ให้โอกาส ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่ส่งเสียงเชียร์ให้ตลอด ผมได้ยินมันชัดมากบนเวที มันทำให้ผมมีแรงสู้จนวินาทีสุดท้าย”
แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน:
“ต้องยอมรับครับว่าเขา (เสือแบล็ค) ทำการบ้านมาดีมาก ผมยังต้องเรียนรู้เรื่องจังหวะการออกอาวุธอีกเยอะในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ไฟต์นี้สอนอะไรผมหลายอย่าง ผมจะกลับมาให้แกร่งกว่านี้แน่นอน”
การชกของเสือแบล็คในไฟต์นี้ถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าเขาไม่ใช่แค่มวยสายบู๊ แต่ยังเป็นนักชกที่มีไอเดีย มีแผน และใช้สมองร่วมกับหัวใจอย่างลงตัว เขาสร้างความได้เปรียบด้วยการออกหมัดซ้ายไว แม่นยำ และอาวุธเด็ดอย่างเตะหมุนกลับหลัง ซึ่งแสงอาทิตย์ไม่สามารถตั้งรับได้ทัน
ในทางกลับกัน แสงอาทิตย์ยังติดกับจังหวะและระยะของมวยสากล การป้องกันเตะต่ำและท่าหมุนยังมีช่องโหว่ อย่างไรก็ตาม ทักษะหมัดยังน่าจับตา หากมีเวลาปรับตัวมากขึ้น เขาคือคู่แข่งที่อันตรายในอนาคต